ร้านอาหารของครอบครัวเราได้เปิดมาเป็นเวลาสี่ปีแล้ว ตลอดมากิจการเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีร้านอาหารใหม่มาเปิดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก โดยมีการเปิดหนังแผ่นดีวีดีให้ลูกค้าได้ดูไปพร้อมกับการรับประทานอาหารด้วย ซึ่งก็ได้ผลตอบรับค่อนข้างดี เหตุนี้พ่อกับแม่จึงเกิดความเครียดและอยากจะปรับปรุงการบริการของร้านเราบ้าง
ขณะรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในวันหยุดของร้าน
“แม่ พ่อคิดไม่ออกเลยว่าจะปรับปรุงร้านยังไงดี ไอ้เราก็ไม่ใช่พวกไฮเท็กเสียด้วยสิ” พ่อพูดเสียงละห้อยละเหี่ยจนแม่ถอนหายใจเบาๆ และเอ่ย
“แม่ว่า เราลดแลกแจกแถมด้วยดีไหม พ่อ”“ทุกวันนี้ เราก็ลดแลกแจกแถมแล้วนะ แม่ ถ้ามากกว่านี้ เราจะอยู่ไม่ไหวนะ” สีหน้าของพ่อดูไม่สดใสเอาเสียเลย แม่ก็เช่นเดียวกัน
ได้ฟังคำพูดของพ่อกับแม่ ฉันซึ่งเป็นลูกคนเดียวอยู่ในวัยมัธยมศึกษาก็อดเป็นห่วงครอบครัวและกิจการไม่ได้ ฉันจึงตัดสินใจเสนอสิ่งที่เพื่อนเคยเล่าว่า ครอบครัวเขามีกิจการอู่ซ่อมรถ แล้วได้เปิดหนังผ่านอินเตอร์เน็ตให้ลูกค้าดูเพลินๆ เวลานั่งรอ ฉันคิดๆ ดูมันก็ไม่เลวและน่าจะใช้ได้กับกิจการของเราด้วย
“พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูว่า เราลองให้ลูกค้าดูหนัง HDเวลาทานอาหารไปด้วยดีไหมจ้ะ”
ดูท่าเหมือนสิ่งที่ฉันเสนอจะดี พ่อกับแม่หันมองหน้ากัน ก่อนจะเอ่ยว่า…
“ดีเลย ยัยหนู เป็นความคิดที่ไม่เลวจริงๆ”
ฉันดีใจที่ช่วยคลายปมให้พ่อกับแม่ได้ มันจะดีหรือไม่ดียังไม่รู้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้ทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง
วันต่อมา พ่อกับแม่เริ่มติดตั้งอุปกรณ์ภายในร้าน โดยให้ครอบคลุมทุกมุม จากนั้นก็ติดประกาศเกี่ยวกับบริการใหม่ของร้าน ซึ่งแรกๆ ลูกไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก แต่พอมีลูกค้ามารับประทานอาหารพร้อมกับดื่มด่ำหนังไปด้วยก็เริ่มมีการบอกต่อๆ ว่า หนังที่ร้านเราชัดทั้งภาพและเสียงยิ่งดูยิ่งได้อรรถรส ลูกค้าบางคนถึงกับมาขอให้กระซิบบอกวิธีการดูหนังแบบนี้ด้วย พ่อกับแม่ก็ไม่หวงบอกกล่าวทุกสิ่งทุกอย่างจนทำให้ลูกค้าซาบซึ้งความมีน้ำใจ
ตั้งแต่นั้น กิจการของร้านเราก็ดีขึ้นจนคนของร้านที่เคยเปิดหนังแผ่นถึงกับเข้ามาป่วนเล็กๆ แต่พ่อก็แก้ปัญหาด้วยการบอกและแนะนำวิธีการดูหนังเหมือนกับที่บอกลูกค้า เมื่อร้านดังกล่าวได้ทำตาม กิจการก็ไปได้ดีเช่นเดียวกับเรา เห็นแบบนั้น ฉันจึงถามพ่อแม่…ทำไมถึงแนะนำเขา ซึ่งพ่อได้อธิบายว่า…
“คนทุกคนต่างต้องดิ้นรนต่อสู้ให้ตัวเองอยู่รอด มันเป็นธรรมชาติของคนและสัตว์ ดังนั้นเมื่อเราสามารถหลุดพ้นปัญหา แต่ยังมีคนไม่หลุดพ้น เราช่วยได้ก็ช่วย เพราะการเปลี่ยนเกมการแข่งขันทางการค้าเป็นการช่วยเหลือกันและกัน มันเป็นเรื่องดีมากๆ”
ฉันเพิ่งจะรู้ซึ้งก็วันนี้เอง พ่อกับแม่ทำให้ฉันเข้าใจวิถีชีวิตของคนมากขึ้นว่า…การพยุงทุกคนให้อยู่รอดไปด้วยกัน มันจะทำให้โลกน่าอยู่ ถึงแม้ในภาคธุรกิจจะอิงการแข่งขันกันก็ตาม หากเราไม่มุ่งเอาแต่จะแข่งขัน เราก็จะไม่จมอยู่ในวังวนที่ความดำมืดและเห็นแก่ตัวนั่นเอง